
Long-Term Resident Visa
ที่มา: BOI e-Journal
ฉบับที่ 1/2566
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2564 และวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 กำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการลงทุนและการหมุุนเวียนของเศรษฐกิจมากขึ้น ผ่านการใช้จ่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการในธุุรกิจที่เกี่ยวข้องมีรายได้ต่อเนื่อง เป็นผลดีแก่ประชาชนและแรงงานไทย และทำให้ประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป
ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการออกประกาศ กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ผ่านการกำหนดให้มีการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ประเภทผู้พำนักระยะยาว หรือ Long-Term Resident Visa: LTR Visa เช่น
ประกาศกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำหนดให้มี LTR Visa ประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ประเภทประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ และผู้ติดตามจำนวนไม่เกิน 4 คน ตามประเภทข้างต้น
สิทธิพิเศษภายใต้กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ประกาศกระทรวงแรงงาน ซึ่งให้สิทธิพิเศษในการทำงานในประเทศไทยภายใต้กฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าวแก่ผู้ถือ LTR Visa
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญว่าด้วยการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ถือ LTR Visa ประเภทผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ และการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับรายได้ที่เกิดในต่างประเทศของผู้ถือ LTR Visa ประเภทประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ และผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย ซึ่งออกโดยกระทรวงการคลัง
สำหรับบีโอไอได้ออกประกาศ ซึ่งกำหนดประเภท คุณสมบัติ สิทธิประโยชน์ หลักเกณฑ์ เงื่อนไขของ LTR Visa 4 ประเภท ตามกลุ่มของชาวต่างชาติ ดังนี้
- ประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy Global Citizens)
บุคลากรผู้มั่งคั่งที่ถือครองทรัพย์สินมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy Pensioners)
ผู้เกษียณที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่รับเงินบำนาญหรือมีรายได้ที่มั่นคง
- ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand Professionals)
ผู้ทำงานทางไกลให้กับบริษัทในต่างประเทศ
- ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-Skilled Professionals)
ผู้มีทักษะหรือผู้เชี่ยวชาญภายใต้อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่ทำงานให้กับบริษัท สถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย หรือสถาบันฝึกอบรมเฉพาะทาง หรือหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทย
- ผู้ติดตาม (Dependents)
คู่สมรสและบุตรอายุไม่เกิน 20 ปี ของผู้ถือ LTR Visa
(ผู้ถือ LTR Visa สามารถมีผู้ติดตามได้สูงสุด 4 คน)
สิทธิและประโยชน์
-
สิทธิประโยชน์ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย
- วีซ่า LTR จะครอบคลุมระยะเวลาทั้งสิ้น 10 ปี โดยอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ 5 ปี และยื่นคำขอรับรองคุณสมบัติ เพื่อขออยู่ต่อได้อีก 5 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เดินทางเข้าออกราชอาณาจักร โดยรวมถึงคนต่างด้าวและผู้ติดตามซึ่งเป็นคู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย (อายุไม่เกิน 20 ปี) จำนวนไม่เกิน 4 คน
- กำหนดให้แจ้งที่พำนักอาศัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อพำนักครบ 1 ปี (จากเดิมที่ต้องดำเนินการทุกรอบ 90 วัน)
-
สิทธิประโยชน์ตามประกาศและกฎกระทรวงแรงงาน
- ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย (Digital Work Permit)
- ได้รับการยกเว้นตรวจโรคต้องห้าม และการแสดงตัวเพื่อรับใบอนุญาตทำงาน (อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบร่างกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง)
-
สิทธิประโยชน์ตามประกาศ พ.ร.ฎ.กระทรวงการคลัง
- ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ เหลือเพียงร้อยละ 17
- ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับรายได้ที่เกิดในต่างประเทศของกลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ และผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย
-
สิทธิประโยชน์อื่น ๆ
- ได้รับสิทธิ์ยกเว้นอัตราส่วนการจ้างงานพนักงานคนไทย 4 คน ต่อชาวต่างชาติ 1 คน
- ได้รับสิทธิ์ให้ใช้ช่องทางพิเศษ (Fast Track Lane ) ในการเข้าออกราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ ที่มีให้บริการช่องทางพิเศษ
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
-
ประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy Global Citizen)
- สถานะทางการเงินและการลงทุน
- มีทรัพย์สินไม่น้อยกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
- มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ในระยะเวลา 2 ปีก่อนยื่นคำขอ
- ลงทุนไม่น้อยกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ ในพันธบัตรรัฐบาลไทย FDI หรืออสังหาริมทรัพย์
- กรมธรรม์ประกันสุขภาพ
- มีประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือสิทธิประกันสังคมซึ่งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย หรือเงินฝากในบัญชีไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ
-
ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy Pensioner)
- สถานะทางการเงินและการลงทุน
- มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และมีสถานะเป็นผู้เกษียณ
- มีรายได้ส่วนบุคคล ไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ณ วันที่ยื่นคำขอ
- กรณีที่รายได้ส่วนบุคคลต่ำกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี แต่ไม่น้อยกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 250,000 เหรียญสหรัฐ ในพันธบัตรรัฐบาลไทย FDI หรืออสังหาริมทรัพย์
- กรมธรรม์ประกันสุขภาพ
- มีประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือสิทธิประกันสังคมซึ่งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย หรือเงินฝากในบัญชีไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ
-
ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand Professional)
- รายได้ส่วนบุคคล
- มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ในระยะเวลา 2 ปี ก่อนยื่นคำขอ
- กรณีที่รายได้ส่วนบุคคลต่ำกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี แต่ไม่น้อยกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ในระยะเวลา 2 ปีก่อนยื่นคำขอ ผู้ยื่นคำขอต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา หรือได้รับเงินทุน Series A
- นายจ้างปัจจุบัน
- เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือบริษัทที่มีการดำเนินงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และมีรายได้รวมกันไม่น้อยกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ในระยะเวลา 3 ปีถึงวันที่ยื่นคำขอ
- ประสบการณ์
- มีประสบการณ์การทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปี ในสาขาที่เกี่ยวข้อง ภายในระยะเวลา 10 ปีถึงวันที่ยื่นคำขอ
- กรมธรรม์ประกันสุขภาพ
- มีประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือสิทธิประกันสังคมซึ่งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย หรือเงินฝากในบัญชีไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ
-
ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-Skilled Professional)
- รายได้ส่วนบุคคล
- มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ในระยะเวลา 2 ปี ก่อนยื่นคำขอ
- กรณีที่รายได้ส่วนบุคคลต่ำกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี แต่ไม่น้อยกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ในระยะเวลา 2 ปี ก่อนยื่นคำขอ หรือก่อนการเกษียณอายุ ผู้ยื่นคำขอต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปในสาขาด้านวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี หรือมีความเชี่ยวชาญในสายงานซึ่งจะเข้ามาทำงานในประเทศไทย
- มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ในระยะเวลา 2 ปี ก่อนยื่นคำขอ
- ไม่ต้องแสดงหลักฐานรายได้ขั้นต่ำ สำหรับการทำงานในสถาบันของรัฐ หรือหน่วยงานภาครัฐ
- นายจ้างปัจจุบัน
- กิจการอยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
- สถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย สถาบันฝึกอบรมเฉพาะทาง หรือหน่วยงานภาครัฐ
- ประสบการณ์
- มีประสบการณ์การทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปี ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย* ยกเว้นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกขึ้นไป หรือผู้ที่ทำงานในสถาบันของรัฐ หรือหน่วยงานภาครัฐ
- กรมธรรม์ประกันสุขภาพ
- มีประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือสิทธิประกันสังคมซึ่งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย หรือเงินฝากในบัญชีไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ
การดำเนินงานในปัจจุบัน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้เปิดให้ยื่นขอ LTR Visa ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 เป็นต้นมา
ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 มีผู้ยื่นคำขอทั้งหมด 2,106 คำขอ
ข้อมูลปัจจุบัน พบว่า ประเภทที่มีการยื่นคำขอมากที่สุด ได้แก่ Wealthy Pensioners มีจำนวน 765 คำขอ (36.3%)
รองลงมาคือ Work-from-Thailand Professionals
มีจำนวน 582 คำขอ (27.6%) ตามมาด้วย Dependents
มีจำนวน 322 คำขอ (15.3%) High-Skilled Professionals
มีจำนวน 285 คำขอ (13.5%) Wealthy Global Citizens
มีจำนวน 152 คำขอ (7.2%) ตามลำดับ
สัญชาติที่มีการยื่นคำขอ LTR Visa มากที่สุดได้แก่
อันดับ 1) สหรัฐอเมริกา 2) จีน 3) สหราชอาณาจักร
4) รัสเซีย และ 5) เยอรมนี ตามลำดับ
ทิศทางที่ดำเนินการต่อไป
ตามที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายในการรับคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทยทั้ง 4 ประเภท เพื่อเข้ามาทำงานในกิจการที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่จะเข้ามาพำนักในประเทศไทย ไว้ที่ 1 ล้านคน ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทย ควบคู่กับการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว
บีโอไอเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการผลักดันมาตรการ โดยการทำการตลาดเพื่อสร้างความรับรู้ ชักจูงและดึงดูดชาวต่างชาติ กลุ่มเป้าหมาย และให้สามารถแข่งขันกับประเทศในภูมิภาค ซึ่งมีการขับเคลื่อนมาตรการการดึงดูดชาวต่างชาติ ที่มีศักยภาพสูงอย่างเข้มข้น เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น โดยบีโอไอกำหนดแผนการขับเคลื่อน ดังนี้
แผนการขับเคลื่อน 3 ด้าน
- Competitive Products
การดำเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และสิทธิประโยชน์ของอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เข้ามาทำงานในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสาขาที่ประเทศไทยขาดแคลน เพื่อให้สามารถดึงดูดชาวต่างชาติ ที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
- Excellent Delivery of Products
ให้บริการด้านข้อมูล และการดำเนินการรับรองคุณสมบัติ ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มีบริการเกี่ยวเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกแบบครบวงจร โดยจะมีการคัดเลือกและแต่งตั้งตัวแทนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง ให้เข้ามาพำนักและทำงานในประเทศไทย
- Comprehensive Marketing Approach
ผ่านการสร้างความรับรู้อย่างทั่วถึง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น โครงการ Focused Marketing Campaign ร่วมกับ Stakeholders ต่าง ๆ การจัด Online Seminar Series รายเดือนให้กับกลุ่มเป้าหมายย่อยต่าง ๆ การชักจูงรายบริษัทแบบ Door Knocking การจัดกิจกรรม Roadshow มีพื้นที่เป้าหมายทั้งในและต่างประเทศ
pageview 5
Total Pageviews 5,059,134 since January 2014