FAQ108 ความรู้ BOI ความรู้ IC คลังคำถามคำตอบ เว็บบอร์ด FAQ108 Our Services Contact US

ความรู้เกี่ยวกับงาน BOI
108 คำถามกับงาน BOI / การแก้ไขโครงการ / การแก้ไขเพื่อว่าจ้างหรือรับจ้างผลิต
การว่าจ้างผู้อื่นผลิตชั่วคราว
1 - 15 จาก 15 คำตอบ
page: 1/1
janis เมื่อ 28 เมย 68, 08:46 น.

ทางบริษัทมีกรรมวิธีการผลิต 12 ขั้นตอน

โดยต้องการแก้ไขขั้นตอนดังกล่าว >> ขั้นตอนที่ 5 นำชิ้นงานไปปิดรู ขัดผิวหยาบ ตัดขอบ เจาะรู ขัดผิวละเอียด เตรียมผิว ชุบทองแดง

การเจาะรู - บริษัทนำเข้าเครื่องจักรเข้ามาแล้ว แต่เครื่องจักรยังติดตั้งไม่เสร็จ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการตาม process ได้บางส่วน ทางเราจึงจำเป็นต้องนำไปว่าจ้างให้ผู้อื่นผลิตชั่วคราว 

คำถาม

1. ในกรณีนี้ถึงแม้จะเป็นแค่การผลิตชั่วคราว ก็จำเป็นต้องแก้ไขกรรมวิธีการผลิตใช่มั้ยคะ

ADMIN เมื่อ 28 เมย 68, 10:54 น. #1

การว่าจ้างผลิตเป็นการชั่วคราว ต้องยื่นขอแก้ไขกรรมวิธีการผลิตด้วย

โดย BOI อาจกำหนดระยะเวลา หรือปริมาณ ที่จะอนุญาตให้ว่าจ้างผลิตเป็นการชั่วคราวไว้ด้วยก็ได้ ครับ

janis เมื่อ 28 เมย 68, 11:49 น. #2

ในกรณีที่ BOI อาจจะกำหนดระยะเวลา หรือปริมาณ

หากทางเราต้องการว่าจ้างผู้อื่นผลิต 100 ชิ้น โดยแบ่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 50 ชิ้น ทุกครั้งที่เรานำไปว่าจ้างผลิต ทางเราต้องแจ้งกับทาง BOI อีกมั้ยคะ 

ADMIN เมื่อ 28 เมย 68, 14:02 น. #3
แก้ไขโดย ADMIN เมื่อ 28 เมย 68, 14:02 น.

หากบริษัทต้องการว่าจ้างผู้อื่นผลิต 100 ชิ้น โดยแบ่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 50 ชิ้น

1. บริษัทสามารถขอแก้ไขกรรมวิธีการผลิต เพื่อว่าจ้างผลิต จำนวนไม่เกิน 100 ชิ้นได้
โดยยื่นขอแก้ไขเพียงครั้งเดียว

2. และเมื่อจะมีการนำวัตถุดิบไปว่าจ้างผลิต ตามที่ได้รับอนุมัติตามข้อ 1
แอดมินเข้าใจว่า บริษัทจะต้องแจ้งให้ BOI ทราบเป็นครั้งๆว่า จะนำวัตถุดิบอะไร จำนวนเท่าไร ออกไปนอกโรงงาน เพื่อให้บริษัทใด ผลิตขั้นตอนใด ฯ
เช่นเดียวกับการขออนุญาตนำวัตถุดิบไปเก็บนอกสถานที่

แต่ขอตรวจสอบหลักเกณฑ์ตามข้อ 2 และจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ครับ


เพิ่มเติม

จากการตรวจสอบกับ BOI ได้รับแจ้งว่า

ปัจจุบัน บริษัทไม่ต้องแจ้งการนำวัตถุดิบไปว่าจ้างผลิตต่อ BOI เป็นครั้งๆ หากในกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับส่งเสริมมีการระบุไว้แล้วว่าจะมีการว่าจ้างผลิต


กรณีที่สอบถาม หากบริษัทได้รับอนุมัติผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตเป็นการชั่วคราว เพื่อว่าจ้างได้ไม่เกิน 100 ชิ้น

บริษัทจะทยอยส่งไปว่าจ้างครั้งละเท่าใดก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งต่อ BOI แต่รวมไม่เกินปริมาณที่ได้รับผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตนั้น ครับ

janis เมื่อ 28 เมย 68, 15:51 น. #4

ในกรณีที่ในกรรมวิธีการผลิตไม่ได้ระบุเรื่องว่าจ้างผลิต

1. ทางบริษัทต้องขอแก้ไขกรรมวิธีการผลิต หลังจากนั้นก็ผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตเป็นการชั่วคราว ใช่หรือไม่คะ

2.หรือว่าสามารถขอผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตชั่วคราวได้เลยคะ

ADMIN เมื่อ 28 เมย 68, 16:22 น. #5

1. การผ่อนผันกรรมวิธีการผลิต ปกติจะหมายความว่า

ขั้นตอนการผลิตนั้น เป็นสาระสำคัญของโครงการ หากบริษัทไม่มีการผลิตขั้นตอนนั้น BOI อาจไม่สามารถให้การส่งเสริมได้

ดังนั้น จึงอาจจะต้องอนุญาตโดยมีข้อจำกัด เช่น ระยะเวลา หรือจำนวน เป็นต้น หรืออาจอนุญาตโดยไม่ให้ได้รับสิทธิ .... ก็ได้

2. กรณีที่สอบถาม บริษัทแจ้งว่าจะขอว่าจ้างผลิตเป็นการชั่วคราว ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักร

ก็เป็นการผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตอีกลักษณะหนึ่ง ซึ่ง BOI อาจจะกำหนดระยะเวลา หรือปริมาณ ไว้ด้วยก็ได้

3. แบบฟอร์มแก้ไขโครงการ ไม่มีหัวข้อผ่อนผันกรรมวิธีการผลิต เพราะถือว่ารวมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขกรรมวิธีการผลิต

จึงให้ยื่นในข่ายการแก้ไขกรรมวิธีการผลิต โดยระบุเหตุผลความจำเป็นและรายละเอียดให้ชัดเจน

โดย จนท จะเป็นผู้พิจารณาเองว่าเป็นการแก้ไขแบบถาวร (ไม่กำหนดระยะเวลาและปริมาณ) หรือเป็นการแก้ไขลักษณะผ่อนผัน (ซึ่งอาจกำหนดระยะเวลา หรือปริมาณ หรือกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมอื่นๆ) ครับ

janis เมื่อ 9 มิย 68, 13:29 น. #6

สวัสดีค่ะ ทางบริษัทจะยื่นเรื่องขอแก้ไขกรรมวิธีการผลิตโดยเพิ่มการว่าจ้างผู้อื่นผลิตเข้ามา ซึ่งเครื่องจักรกับวัตถุดิบทางเราไม่ได้มีใช้เพิ่มเติมเนื่องจากจ้างผู้อื่นผลิต

แต่ในส่วนมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ ในส่วนนี้ต้องคิดยังไงคะ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ค่ะ

ADMIN เมื่อ 12 มิย 68, 10:49 น. #7

1. มูลค่าเพิ่ม เป็นหลักเกณฑ์ข้อหนึ่งในการอนุมัติให้การส่งเสริม

ซึ่งกำหนดแนวทางการคำนวณคือ มูลค่าเพิ่ม (%) = (รายได้ - ต้นทุนวัตถุดิบ - ค่าบริการสาธารณูปโภค) x 100 / รายได้

2. เรื่องที่สอบถาม ข้อมูลไม่ชัดเจนว่า

- เป็นการว่าจ้างเพื่อผลิตชิ้นส่วนที่บริษัทจะต้องผลิตเองตามกรรมวิธีที่ได้รับส่งเสริม

- หรือเป็นการว่าจ้างเพื่อผลิตชิ้นส่วนที่บริษัทจะไม่ผลิตเอง

จึงขอตอบทั้ง 2 กรณีดังนี้

3. กรณีว่าจ้างชิ้นส่วนที่เดิมจะต้องผลิตขึ้นเองตามกรรมวิธีที่ได้รับส่งเสริม

- มูลค่าเพิ่มของโครงการจะลดลง เนื่องจากมีค่าบริการจากภายนอก (ค่าว่าจ้าง) เพิ่มขึ้น

- แนวทางการคำนวณคือ มูลค่าเพิ่ม (%) = (รายได้ - ต้นทุนวัตถุดิบ - ค่าบริการสาธารณูปโภค - ค่าว่าจ้าง) x 100 / รายได้

- หากบริษัทจะไม่ผลิตชิ้นส่วนเอง แล้วทำให้มูลค่าเพิ่มลดลงต่ำกว่าหลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการ -> จะไม่อนุญาตให้แก้ไขกรรมวิธีผลิตเพื่อลดขั้นตอนผลิต

- แต่หากเป็นการว่าจ้างชั่วคราว เช่น เครื่องจักรเสีย ฯลฯ อาจผ่อนผันให้ได้เป็นกรณีไป

4. กรณีว่าจ้างผลิตชิ้นส่วนที่เดิมไม่ต้องผลิตเอง

- มูลค่าเพิ่มของโครงการไม่เปลี่ยนแปลง (ไม่ลดลงกว่าเดิม)

- เป็นกรณีที่ต้องการใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากรวัตถุดิบหรือแม่พิมพ์ที่จะนำไปว่าจ้างผลิต ครับ

janis เมื่อ 12 มิย 68, 15:03 น. #8

ทางบริษัทเพิ่มการว่าจ้างผู้อื่นผลิต ลงไปในกรรมวิธีการผลิตเดิมที่มีอยู่ค่ะ โดยเพิ่มว่า บางส่วนนำไปว่าจ้างผู้อื่นผลิตแบบนี้ค่ะ

สอบถามเพิ่มเติมค่ะ

- ค่าบริการสาธารณูปโภค ทางBOIมีกำหนดมั้ยคะว่าต้องมีค่าอะไรบ้างคะ

- การคำนวณ % ส่วนนี้เป็นรายเดือน หรือรายปีคะ

- ข้อมูลในส่วนนี้ที่ทาง BOI ต้องการมีผลอะไรกับตอนเปิดดำเนินโครงการหรือไม่คะ

ADMIN เมื่อ 12 มิย 68, 17:12 น. #9

1. ค่าสาธารณูปโภค คือ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน/ค่าก๊าซที่เกี่ยวกับการผลิตโดยตรง 

2. การคำนวณรายเดือนหรือรายปี ปกติควรจะได้ตัวเลขเท่ากัน เนื่องจากเป็นสัดส่วนที่คงที่

3. เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติ

แต่จะไม่มีการตรวจสอบภายหลังจากได้รับอนุมัติแล้ว ครับ

janis เมื่อ 13 มิย 68, 13:03 น. #10
แก้ไขโดย janis เมื่อ 13 มิย 68, 13:03 น.

รบกวนสอบถามเพิ่มเติมค่ะ

1.การคิดมูลค่าเพิ่มคือมูลค่าเพิ่มของโครงการทั้งหมด ไม่ใช่แค่มูลค่าเพิ่มของขั้นตอนที่ต้องการแก้ไขใช่มั้ยคะ

2.รายได้ในที่นี้ หมายถึงรายได้จากการขายสินค้าสำเร็จรูปหรือรายได้ของบริษัททั้งหมดคะ

ADMIN เมื่อ 13 มิย 68, 13:52 น. #11

1. หากเป็นการแก้ไขกรรมวิธีผลิตลดขั้นตอนผลิตของผลิตภัณฑ์ใด
ปกติควรต้องคำนวณมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์นั้น ไม่ใช่คำนวณทั้งโครงการที่ได้รับส่งเสริม

2. รายได้ที่ใช้ในการคำนวณมูลค่าเพิ่ม
ปกติควรเป็นรายได้ของผลิตภัณฑ์ที่จะลดขั้นตอนการผลิต ไม่ใช่รายได้ของทั้งโครงการที่ได้รับส่งเสริม ครับ

janis เมื่อ 13 มิย 68, 15:14 น. #12

ตามเอกสารขอแก้ไขโครงการ เป็นตามสูตรข้อที่ 1 ทางเราต้องใช้สูตรตามอันไหนถึงจะถูกต้องคะ

1.แนวทางการคำนวณคือ มูลค่าเพิ่ม (%) = (รายได้ - ต้นทุนวัตถุดิบ - ค่าบริการสาธารณูปโภค) x 100 / รายได้

2. แนวทางการคำนวณคือ มูลค่าเพิ่ม (%) = (รายได้ - ต้นทุนวัตถุดิบ - ค่าบริการสาธารณูปโภค - ค่าว่าจ้าง) x 100 / รายได้

ADMIN เมื่อ 13 มิย 68, 17:25 น. #13

ถ้าเป็นการแก้ไขกรรมวิธีผลิต จากเดิมผลิตเอง เป็นว่าจ้างผลิต

ให้ใช้แนวทางตามข้อ 2 ครับ

janis เมื่อ 14 มิย 68, 08:33 น. #14

ถ้าเป็นกรณีผลิตเองด้วย แล้วก็ว่าจ้างเพิ่มด้วย ต้องใช้ตามข้อไหนคะ เช่น ขั้นตอนที่ 5 นำชิ้นงานไปปิดรู ขัดผิวหยาบ ตัดขอบ เจาะรู ขัดผิวละเอียด เตรียมผิว ชุบทองแดง และบางส่วนของกระบวนการเจาะรูนำไปว่าจ้างผู้อื่นผลิต

ADMIN เมื่อ 16 มิย 68, 15:32 น. #15

หากแก้ไขกรรมวิธีการผลิตจากเดิมเจาะรูเอง เป็นบางส่วนเจาะรูเอง และบางส่วนว่าจ้างเจาะรู โดยไม่ระบุสัดส่วน ให้ใช้แนวทางตามวิธีที่2 ครับ