บริษัท ฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยบัตรส่งเสริมระบุเงื่อนไขที่ตั้งโรงงาน 2 แห่ง คือ ในเขตอุตสาหกรรมนวนคร และ นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ซิตี้ จังหวัดฉะเชิงเทรา
รบกวนสอบถามข้อมูล ดังนี้
กรณีที่ 1 หากบริษัทต้องการยุบรวมโรงงานทั้ง 2 แห่ง มาอยู่ที่ตั้งโรงงานในเขตอุตสาหกรรมนวนคร จะต้องดำเนินการบัตรส่งเสริม, ที่ดิน, เครื่องจักร และ วัตถุดิบ อย่างไร
กรณีที่ 2 หากบริษัทชลอการผลิต ที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ซิตี้ จังหวัดฉะเชิงเทรา จะต้องดำเนินการแจ้งและมีวิธีปฏิบัติอย่างไร
กรณีที่ 3 หากบริษัทยุติการผลิต ที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ซิตี้ จังหวัดฉะเชิงเทรา จะต้องดำเนินการแจ้งและมีวิธีปฎิบัติอย่างไร
ขอบคุณค่ะ
ขอข้อมูลเพิ่มเติมว่า
1. การระบุเงื่อนไขที่ตั้งโรงงาน 2 แห่ง
เป็นกรณีหลายบัตรส่งเสริม หรือบัตรส่งเสริมฉบับเดียว
2. หากเป็นกรณีบัตรส่งเสริมฉบับเดียว แต่ระบุที่ตั้งโรงงานหลายแห่ง
มีการกำหนดเงื่อนไขของแต่ละแห่ง ไว้ด้วยหรือไม่ อย่างไร
เช่น ผลิตชิ้นส่วนที่ฉะเชิงเทรา และนำไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปทุมธานี เป็นต้น ครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อ 1 มีหลายบัตรส่งเสริม ในแต่ละบัตรส่งเสริม จะระบุเงื่อนไขที่ตั้งโรงงาน 2 แห่ง
ข้อ 2 ไม่มีบัตรส่งเสริมฉบับเดียว แต่ระบุที่ตั้งโรงงานหลายแห่ง และไม่มีกำหนดเงื่อนไขค่ะ
กรณีที่บัตรส่งเสริม 1 ฉบับ ระบุที่ตั้งโรงงานหลายแห่ง
1. ปกติจะเป็นการแยกกรรมวิธีการผลิต ตามที่ตั้งแต่ละแห่ง
เช่น ขั้นตอนผลิตชิ้นส่วนที่จังหวัด A และขั้นตอนประกอบที่จังหวัด B
โดยจะระบุไว้ในกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับส่งเสริม (แนบท้ายหนังสือแจ้งมติให้การส่งเสริม)
1.1 หากจะยกเลิกการผลิตในที่ใดที่หนึ่ง
จะต้องขอแก้ไขโครงการ เพื่อย้ายการผลิตทั้งหมดไปรวมผลิตในที่ซึ่งยังคงผลิตอยู่
1.2 การขอหยุดดำเนินการชั่วคราวในที่ใดที่หนึ่ง
ปกติไม่สามารถทำได้
เพราะการผลิตของทั้ง 2 แห่งมีความเชื่อมโยงกัน
หากหยุดดำเนินการ ควรต้องหยุดดำเนินการทั้ง 2 แห่ง
เว้นแต่ในกรณีที่ชิ้นส่วนที่ผลิตที่จังหวัด A มีปริมาณในสต็อกมากเพียงพอสำหรับการประกอบที่จังหวัด B
อาจขอหยุดดำเนินการที่จังหวัด A เป็นการชั่วคราวก็ได้
2. อาจเป็นไปได้ว่า มีการผลิตครบทุกขั้นตอนในทั้ง 2 ที่ตั้ง
(ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ไม่ควรขอยื่นขอรับส่งเสริมเป็นโครงการเดียวกันตั้งแต่แรก)
2.1 หากจะยกเลิกการผลิตในที่ใดที่หนึ่ง
จะต้องขอแก้ไขโครงการ เพื่อย้ายการผลิตทั้งหมดไปรวมผลิตในที่ซึ่งยังคงผลิตอยู่
2.2 หากจะขอหยุดดำเนินการในที่ใดที่หนึ่ง
สามารถทำได้ เนื่องจากโรงงานที่เหลือในอีกจังหวัดหนึ่ง ยังสามารถผลิตได้ตามที่ได้รับส่งเสริม
ส่วนคำถามว่าจะต้องดำเนินการเกี่ยวกับที่ดิน เครื่องจักร วัตถุดิบ อย่างไร
คำตอบขึ้นอยู่กับว่ากรณีของบริษัท จะเป็นไปตามเคสไหน ครับ
สืบเนื่องจากเพิ่มสถานที่ตั้งเป็น 2 ที่ จากตอนน้ำท่วมปี 2554 โดยในมติไม่ได้ระบุขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วนจังหวัด A และขั้นตอนประกอบที่จังหวัด B หากยกเลิก จังหวัด B ต้องดำเนินการอย่างไรค่ะ
หากเป็นกรณีที่บัตรส่งเสริมระบุเงื่อนไขที่ตั้งโรงงาน 2 แห่ง โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ
1. หากจะหยุดดำเนินการในที่ตั้งแห่งหนึ่งชั่วคราว
สามารถยื่นขอหยุดดำเนินการเป็นการชั่วคราวได้
โดยโรงงานที่เหลือในที่ตั้งอีกแห่งหนึ่ง จะต้องมีกรรมวิธีการผลิตครบถ้วนตามที่ได้รับส่งเสริม
แม้จะมีกำลังผลิตไม่เต็มตามที่ระบุในบัตรส่งเสริม ก็ไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากเป็นเพียงชั่วคราว
2. หากจะยกเลิกการผลิตในที่ตั้งหนึ่งเป็นการถาวร โดยย้ายเครื่องจักรทั้งหมดไปผลิตในที่ตั้งอีกแห่งหนึ่ง
ให้ยื่นขอแก้ไขที่ตั้งโรงงาน โดยลดจาก 2 แห่ง เหลือเพียงแห่งเดียว ครับ
เรียน แอดมิน
ขอคำแนะนำค่ะ บริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการประเภท 2.4.3 กิจการผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิกส์ (ยกเว้น EARTHEN WARE และกระเบื้องเซรามิกส์) บริษัทได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการแล้วเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2567
1. หากบริษัทต้องการหยุดดำเนินการผลิต(ชั่วคราว) เป็นระยะเวลา 1 ปี (โดยยังไม่ปิดโครงการ) บริษัทสามารถทำได้หรือไม่คะ
2. ต้องใช้เอกสารอะไรประกอบการยื่นเรื่องบ้าง / แบบฟอร์ม
3. ต้องนำเอกสารยื่นที่สำนักงานฯ หรือ ยื่นผ่านระบบออนไลน์คะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ตอบคำถามดังนี้
1. ตามเงื่อนไขที่ระบุอยู่ในบัตรส่งเสริม การหยุดดำเนินกิจการเกินกว่า 2 เดือน จะต้องได้รับอนุญาตจาก BOI
2. แบบคำขอหยุดดำเนินการ ตาม Link นี้
https://www.boi.go.th/upload/content/F%20PM%20ST%2001%20e-Form_60c967f99fcc1.pdf
3. ต้องยื่นเอกสารที่สำนักงาน ครับ
ขอบคุณมากค่ะ ขอสอบถามเพิ่มเติมค่ะ
1. ในกรณีที่บริษัทได้รับอนุมัติให้หยุดดำเนินกิจการจากสำนักงานแล้ว และจะครบกำหนดที่ได้รับอนุมัติบริษัทสามารถขอขยายระยะเวลาเพิ่มได้หรือไม่
ตัวอย่าง บริษัทได้รับอนุมัติให้หยุดกิจการเป็นระยะเวลา 1 ปี ก่อนที่จะครบกำหนดบริษัทจะขอขยายฯ ระยะเวลาเพิ่มอีก 1 ปี
2. ในกรณีที่บริษัทปิดกิจการไปแล้ว เคลียร์ภาษีทั้งหมดแล้ว เครื่องจักรในโครงการยังไม่ได้ขายบริษัทสามารถ
2.1 โอนย้ายในบริษัทเดียวกันได้หรือไม่ (นำไปใช้ในโครงการอื่นของบริษัท)
2.2 ขายเครื่องจักรในประเทศ/ต่างประเทศ
2.3 บริจาค
3. ในกรณีที่บริษัทฯ ขอปิดกิจการ ในส่วนภาษีของเครื่องจักรที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี ทางสำนักงานฯ มีวิธีการคิดภาษีอย่างไรคะ และคิดภาษีกี่ % คะ
4. ในกรณีที่บริษัทยังไม่ปิดกิจการ สามารถให้ผู้อื่นเข้ามาร่วมทุนกับเราได้หรือไม่
ตอบคำถามดังนี้
1. บริษัทสามารถขอขยายเวลาการหยุดดำเนินกิจการได้ ตามเหตุผลและความจำเป็น
2. หากบริษัทจะไม่ประกอบกิจการนั้น จะต้องยื่นขอยกเลิกบัตรส่งเสริม และสะสางภาระภาษีเครื่องจักรและวัตถุดิบให้เสร็จสิ้น
2.1 การโอนเครื่องจักรให้กับโครงการอื่น -> จะเท่ากับโครงการที่รับโอน ใช้เครื่องจักรเก่าในประเทศ ปกติจะไม่อนุญาต
2.2 การส่งออก การจำหน่าย การบริจาค สามารถทำได้ หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์
3. การจำหน่ายเครื่องจักรที่อายุไม่เกิน 5 ปีนับจากวันนำเข้า จะต้องชำระอากรขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามสัดส่วนของระยะเวลาที่ยังไม่ครบ 5 ปี
เช่น หากนำเข้ามาแล้วเป็นเวลา 3 ปี จะต้องชำระภาษีอากรตามสัดส่วนที่เหลืออีก 2 ปี คือ 40% ของมูลค่าเครื่องจักรนั้น
4. บริษัทสามารถยื่นขอโอนกิจการให้ผู้อื่น หรือขายหุ้นให้กับผู้อื่น (เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น) ได้
ซึ่งจะต้องดำเนินการขออนุญาตตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องนั้นๆ
แนะนำให้ศึกษาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและภาระภาษีจากความเข้าใจผิด ครับ
ขอบคุณมากค่ะ