FAQ108 ความรู้ BOI ความรู้ IC คลังคำถามคำตอบ เว็บบอร์ด FAQ108 Our Services Contact US

ความรู้เกี่ยวกับงาน BOI

คลังคำถามคำตอบ

ปรับปรุงเมื่อ : 5 มกราคม 2566

ภาพรวมการขอรับการส่งเสริม

ผู้ที่จะได้รับการส่งเสริม จะต้องเป็นบริษัท สหกรณ์ หรือมูลนิธิที่จดทะเบียนในประเทศไทยเท่านั้น

แต่หากยังไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จะยื่นคำขอรับการส่งเสริมในนามบุคคลก่อน แล้วจึงจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในภายหลังก่อนที่จะขอรับบัตรส่งเสริมก็ได้

การขอรับการส่งเสริมการลงทุน ประกอบด้วยขั้นตอน ดังนี้

  1. การยื่นคำขอรับการส่งเสริม
  2. การชี้แจงโครงการ
  3. การตอบรับมติการให้ส่งเสริม
  4. การขอรับบัตรส่งเสริม
การยื่นคำขอรับการส่งเสริม

การขอรับการส่งเสริม สามารถยื่นทางออนไลน์ ผ่าน ระบบสนับสนุนงานส่งเสริมการลงทุน (e-Investment Promotion) ของ BOI สำหรับคำขอ 4 ประเภท คือ

  1. คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั่วไป (F PA PP 01-08)
  2. คำขอรับการส่งเสริมการลงทุน (บริการ) (F PA PP 03-09)
  3. คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับกิจการด้านดิจิทัล (F PA PP 04-09)
  4. คำขอรับการส่งเสริมตามหลักเกณฑ์การให้สิทธิและประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) (F PA PP 29-05)

ส่วนคำขอรับการส่งเสริมอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ จะต้องยื่นเป็นเอกสาร ต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

download แบบฟอร์มคำขอรับการส่งเสริม เอกสารประกอบคำขอ และเอกสารแนบต่างๆ

คำขอรับการส่งเสริม มีทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยการกรอกข้อมูลในคำขอรับการส่งเสริม จะกรอกเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้

กรณีที่ผู้ขอรับการส่งเสริมมีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ จะยื่นคำขอรับการส่งเสริมผ่านสำนักงาน BOI ในต่างจังหวัดหรือในต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ดูแลการส่งเสริมลงทุนในพื้นที่นั้นๆ ก็ได้

กรณีที่ผู้ขอรับการส่งเสริม ต้องการปรึกษาวิธีการกรอกคำขอรับการส่งเสริม สามารถติดต่อขอปรึกษาได้ที่ศูนย์บริการเพื่อการลงทุน โทร 02-553-8111

ทั้งนี้ การปรึกษาวิธีการกรอกคำขอ กับ BOI ตลอดจนการยื่นคำขอรับการส่งเสริมนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น

ข้อควรทราบในการกรอกคำขอ

ในการกรอกคำขอรับการส่งเสริม ผู้ขอควรทราบความหมายในการกรอกข้อมูลในส่วนที่สำคัญ ดังนี้

1. ชนิดผลิตภัณฑ์ / กำลังผลิต / เวลาทำงาน

ตัวอย่างที่ 1

ผลิตภัณฑ์กำลังผลิต (ต่อปี)เวลาทำงาน
หม้อหุงข้าว1,000,000 เครื่อง8 ชม./วัน 300 วัน/ปี

ชนิดผลิตภัณฑ์ :

หมายถึง รายการสินค้าที่ผู้ได้รับส่งเสริมสามารถจำหน่ายได้โดยได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบ เป็นต้น

โครงการตามตัวอย่างที่ 1 จะได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเฉพาะหม้อหุงข้าวเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายหม้อนึ่ง หม้ออบ หรือหม้อไฟฟ้าชนิดอื่น ตลอดจนไม่สามารถจำหน่ายชิ้นส่วนของหม้อหุงข้าวได้

กำลังผลิต :

หมายถึง กำลังผลิตสูงสุดของโครงการที่จะสามารถใช้สิทธิการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และคำนวณปริมาณอนุมัติสูงสุดของวัตถุดิบ (Max Stock) โดยกำลังผลิตนี้จะคำนวณจากกำลังผลิตสูงสุดของเครื่องจักร ไม่ใช่แผนการตลาดหรือปริมาณที่คาดว่าจะผลิต

โครงการตามตัวอย่างที่ 1 จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจำหน่ายหม้อหุงข้าวปีละไม่เกิน 1,000,000 เครื่องเท่านั้น ส่วนที่เกินกว่านี้จะต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล และจะได้รับอนุมัติ Max Stock ของวัตถุดิบ สำหรับการผลิต 4 เดือน คือ 333,333 เครื่อง

เวลาทำงาน :

หมายถึง เวลาทำงานของเครื่องจักรที่จะใช้เป็นฐานในการคำนวณกำลังผลิตสูงสุดของโครงการ

กรณีที่ผู้ขอรับการส่งเสริมต้องการผลิตหม้อไฟฟ้าต่างๆ และจะจำหน่ายชิ้นส่วนด้วย ควรกรอกคำขอรับการส่งเสริมตามตัวอย่างที่ 2 โดยระบุกำลังผลิตตามกำลังผลิตสูงสุดของเครื่องจักร ดังนี้

ตัวอย่างที่ 2

ผลิตภัณฑ์กำลังผลิต (ต่อปี)เวลาทำงาน
หม้อไฟฟ้า1,500,000 เครื่อง8 ชม./วัน 300 วัน/ปี
ชิ้นส่วนหม้อไฟฟ้า4,000,000 ชิ้น

2. กรรมวิธีการผลิต

ตัวอย่างที่ 3

กรรมวิธีการผลิตหม้อไฟฟ้า

-นำแผ่นเหล็กมาปั๊มขึ้นรูปเป็นหม้อชั้นในและชั้นนอก
-ประกอบชิ้นส่วนทางไฟฟ้า เช่น สวิตซ์ตัดต่อ และฟิวส์ เป็นต้น
-ประกอบชิ้นส่วนโลหะ ชิ้นส่วนพลาสติก และชิ้นส่วนไฟฟ้าเข้าด้วยกัน
-ตรวจสอบ ปรับแต่ง บรรจุหีบห่อ จำหน่าย

กรรมวิธีการผลิต :

เป็นขั้นตอนในการผลิตสินค้าที่ผู้ได้รับส่งเสริมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้ครบถ้วน ไม่สามารถผลิตสินค้าโดยมีขั้นตอนมากกว่าหรือน้อยกว่าที่ยื่นขอรับส่งเสริมนี้

นอกจากนี้ ในการอนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักรและวัตถุดิบเพื่อยกเว้นอากรขาเข้า จะพิจารณาอนุมัติรายการเครื่องจักรและวัตถุดิบซึ่งสอดคล้องกับกรรมวิธีการผลิตนี้เท่านั้น

โครงการที่มีขั้นตอนการผลิตตามตัวอย่างที่ 3 จะต้องผลิตหม้อชั้นในและชั้นนอกขึ้นเองภายในโรงงาน ไม่สามารถซื้อหม้อชั้นในหรือชั้นนอกที่ปั๊มขึ้นรูปแล้วมาใช้ในการผลิตได้

กรณีที่ผู้ขอรับส่งเสริมประสงค์จะทำการว่าจ้างผลิต หรือต้องการผลิตชิ้นส่วนบางส่วนขึ้นเองและนำเข้าบางส่วน จะต้องระบุในกรรมวิธีการผลิตให้ชัดเจน ตามตัวอย่างที่ 4 ดังนี้

ตัวอย่างที่ 4

กรรมวิธีการผลิตหม้อไฟฟ้า

-นำแผ่นเหล็กไปว่าจ้างผู้ประกอบการในประเทศให้ตัดตามขนาดที่ต้องการ
-ปั๊มขึ้นรูปเป็นหม้อชั้นในและชั้นนอก โดยอาจนำเข้าหม้อชั้นในบางส่วนจากต่างประเทศมาใช้ในการผลิต
-ประกอบชิ้นส่วนทางไฟฟ้า เช่น สวิตซ์ตัดต่อ และฟิวส์ เป็นต้น
-นำแม่พิมพ์ไปว่าจ้างผู้ประกอบการในประเทศให้ฉีดขึ้นรูปชิ้นส่วนพลาสติกบางรายการ
-ประกอบชิ้นส่วนโลหะ ชิ้นส่วนพลาสติก และชิ้นส่วนไฟฟ้าเข้าด้วยกัน
-ตรวจสอบ ปรับแต่ง บรรจุหีบห่อ จำหน่าย
การชี้แจงโครงการ

หลังจากยื่นคำขอรับการส่งเสริมแล้ว ผู้ขอรับการส่งเสริมจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำกองบริหารสิทธิและประโยชน์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคำขอนั้นๆ เพื่อนัดหมายกำหนดวันชี้แจงโครงการ

จากนั้น ผู้ขอรับการส่งเสริมจะต้องเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ (หรือผ่านระบบออนไลน์) เพื่อชี้แจงรายละเอียดของโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน หรืออาจมอบหมายให้ผู้อื่นไปชี้แจงโครงการแทนก็ได้

ในการชี้แจงโครงการ ผู้ขอรับการส่งเสริมควรนำบุคคลที่มีความเข้าใจรายละเอียดของโครงการที่ขอรับการส่งเสริม ทั้งในด้านการผลิต การเงิน และการตลาด ร่วมเดินทางไปชี้แจงโครงการด้วย เนื่องจากจะทำให้การชี้แจงโครงการมีความถูกต้องชัดเจน และจะทำให้การพิจารณาคำขอรับการส่งเสริมเป็นไปโดยสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

กรณีที่ข้อมูลในคำขอรับการส่งเสริมไม่ชัดเจนหรือไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่อาจขอให้บริษัทแก้ไขคำขอรับการส่งเสริม หรืออาจให้จัดทำเอกสารชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป

การอนุมัติโครงการ

หลังจากการชี้แจงโครงการสิ้นสุดลง เจ้าหน้าที่จะสรุปรายงานการขอรับส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว และนำเสนอต่อคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการตามขนาดการลงทุนของโครงการนั้นๆ โดยมีกำหนดเสร็จ 15-90 วันทำการ ดังนี้

ขนาดการลงทุน
(ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)
ผู้พิจารณากำหนดเสร็จ
เกินกว่า 2,000 ล้านบาท
และจำหน่ายในประเทศเป็นส่วนใหญ่
คณะกรรมการ90 วันทำการ
เกินกว่า 2,000 ล้านบาท
และส่งออกเป็นส่วนใหญ่
คณะอนุกรรมการ60 วันทำการ
200-2,000 ล้านบาท
80- 200 ล้านบาทสำนักงาน
60 วันทำการ
ไม่เกิน 80 ล้านบาทสำนักงาน
40 วันทำการ
ไม่เกิน 40 ล้านบาทสำนักงาน15 วันทำการ
กิจการซอฟต์แวร์ทุกขนาดการลงทุน
กิจการกลุ่ม B ในทุกขนาดการลงทุน ยกเว้นกรณีที่มีการนำระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์มาใช้ในโครงการสำนักงาน40-60 วันทำการ
กิจการสถานพยาบาล กิจการโรงแรม และกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ในทุกขนาดการลงทุน
โครงการที่ดำเนินการอยู่เดิมในทุกขนาดการลงทุน ซึ่งเป็นโครงการที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ และ/หรือ มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่ Smart และ Sustainability ด้านการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เฉพาะกรณีการใช้พลังงานทดแทนโดยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และด้านการยกระดับไปสู่มาตรฐานเพื่อความยั่งยืนในระดับสากล
บริการที่ปรึกษา และขอรับการส่งเสริมการลงทุน BOI
FAQ108 ให้บริการที่ปรึกษา และยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนต่อ BOI

กรุณาติดต่อ :

pageview 27,330

Total Pageviews 5,058,804 since January 2014