janis โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568, 08:46:14 (7 สัปดาห์ ก่อน)
Top

ทางบริษัทมีกรรมวิธีการผลิต 12 ขั้นตอน

โดยต้องการแก้ไขขั้นตอนดังกล่าว >> ขั้นตอนที่ 5 นำชิ้นงานไปปิดรู ขัดผิวหยาบ ตัดขอบ เจาะรู ขัดผิวละเอียด เตรียมผิว ชุบทองแดง

การเจาะรู - บริษัทนำเข้าเครื่องจักรเข้ามาแล้ว แต่เครื่องจักรยังติดตั้งไม่เสร็จ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการตาม process ได้บางส่วน ทางเราจึงจำเป็นต้องนำไปว่าจ้างให้ผู้อื่นผลิตชั่วคราว 

คำถาม

1. ในกรณีนี้ถึงแม้จะเป็นแค่การผลิตชั่วคราว ก็จำเป็นต้องแก้ไขกรรมวิธีการผลิตใช่มั้ยคะ

ADMIN โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568, 10:54:45 (7 สัปดาห์ ก่อน)
#1 Top

การว่าจ้างผลิตเป็นการชั่วคราว ต้องยื่นขอแก้ไขกรรมวิธีการผลิตด้วย

โดย BOI อาจกำหนดระยะเวลา หรือปริมาณ ที่จะอนุญาตให้ว่าจ้างผลิตเป็นการชั่วคราวไว้ด้วยก็ได้ ครับ

janis โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568, 11:49:13 (7 สัปดาห์ ก่อน)
#2 Top

ในกรณีที่ BOI อาจจะกำหนดระยะเวลา หรือปริมาณ

หากทางเราต้องการว่าจ้างผู้อื่นผลิต 100 ชิ้น โดยแบ่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 50 ชิ้น ทุกครั้งที่เรานำไปว่าจ้างผลิต ทางเราต้องแจ้งกับทาง BOI อีกมั้ยคะ 

ADMIN โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568, 14:02:37 (7 สัปดาห์ ก่อน)
#3 Top

หากบริษัทต้องการว่าจ้างผู้อื่นผลิต 100 ชิ้น โดยแบ่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 50 ชิ้น

1. บริษัทสามารถขอแก้ไขกรรมวิธีการผลิต เพื่อว่าจ้างผลิต จำนวนไม่เกิน 100 ชิ้นได้
โดยยื่นขอแก้ไขเพียงครั้งเดียว

2. และเมื่อจะมีการนำวัตถุดิบไปว่าจ้างผลิต ตามที่ได้รับอนุมัติตามข้อ 1
แอดมินเข้าใจว่า บริษัทจะต้องแจ้งให้ BOI ทราบเป็นครั้งๆว่า จะนำวัตถุดิบอะไร จำนวนเท่าไร ออกไปนอกโรงงาน เพื่อให้บริษัทใด ผลิตขั้นตอนใด ฯ
เช่นเดียวกับการขออนุญาตนำวัตถุดิบไปเก็บนอกสถานที่

แต่ขอตรวจสอบหลักเกณฑ์ตามข้อ 2 และจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ครับ


เพิ่มเติม

จากการตรวจสอบกับ BOI ได้รับแจ้งว่า

ปัจจุบัน บริษัทไม่ต้องแจ้งการนำวัตถุดิบไปว่าจ้างผลิตต่อ BOI เป็นครั้งๆ หากในกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับส่งเสริมมีการระบุไว้แล้วว่าจะมีการว่าจ้างผลิต


กรณีที่สอบถาม หากบริษัทได้รับอนุมัติผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตเป็นการชั่วคราว เพื่อว่าจ้างได้ไม่เกิน 100 ชิ้น

บริษัทจะทยอยส่งไปว่าจ้างครั้งละเท่าใดก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งต่อ BOI แต่รวมไม่เกินปริมาณที่ได้รับผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตนั้น ครับ

แก้ไขโดย ADMIN เมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568, 15:14:53
janis โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568, 15:51:12 (7 สัปดาห์ ก่อน)
#4 Top

ในกรณีที่ในกรรมวิธีการผลิตไม่ได้ระบุเรื่องว่าจ้างผลิต

1. ทางบริษัทต้องขอแก้ไขกรรมวิธีการผลิต หลังจากนั้นก็ผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตเป็นการชั่วคราว ใช่หรือไม่คะ

2.หรือว่าสามารถขอผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตชั่วคราวได้เลยคะ

ADMIN โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568, 16:22:26 (7 สัปดาห์ ก่อน)
#5 Top

1. การผ่อนผันกรรมวิธีการผลิต ปกติจะหมายความว่า

ขั้นตอนการผลิตนั้น เป็นสาระสำคัญของโครงการ หากบริษัทไม่มีการผลิตขั้นตอนนั้น BOI อาจไม่สามารถให้การส่งเสริมได้

ดังนั้น จึงอาจจะต้องอนุญาตโดยมีข้อจำกัด เช่น ระยะเวลา หรือจำนวน เป็นต้น หรืออาจอนุญาตโดยไม่ให้ได้รับสิทธิ .... ก็ได้

2. กรณีที่สอบถาม บริษัทแจ้งว่าจะขอว่าจ้างผลิตเป็นการชั่วคราว ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักร

ก็เป็นการผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตอีกลักษณะหนึ่ง ซึ่ง BOI อาจจะกำหนดระยะเวลา หรือปริมาณ ไว้ด้วยก็ได้

3. แบบฟอร์มแก้ไขโครงการ ไม่มีหัวข้อผ่อนผันกรรมวิธีการผลิต เพราะถือว่ารวมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขกรรมวิธีการผลิต

จึงให้ยื่นในข่ายการแก้ไขกรรมวิธีการผลิต โดยระบุเหตุผลความจำเป็นและรายละเอียดให้ชัดเจน

โดย จนท จะเป็นผู้พิจารณาเองว่าเป็นการแก้ไขแบบถาวร (ไม่กำหนดระยะเวลาและปริมาณ) หรือเป็นการแก้ไขลักษณะผ่อนผัน (ซึ่งอาจกำหนดระยะเวลา หรือปริมาณ หรือกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมอื่นๆ) ครับ

janis โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568, 13:29:18 (1 สัปดาห์ ก่อน)
#6 Top

สวัสดีค่ะ ทางบริษัทจะยื่นเรื่องขอแก้ไขกรรมวิธีการผลิตโดยเพิ่มการว่าจ้างผู้อื่นผลิตเข้ามา ซึ่งเครื่องจักรกับวัตถุดิบทางเราไม่ได้มีใช้เพิ่มเติมเนื่องจากจ้างผู้อื่นผลิต

แต่ในส่วนมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ ในส่วนนี้ต้องคิดยังไงคะ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ค่ะ

ADMIN โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568, 10:49:25 (4 วัน ก่อน)
#7 Top

1. มูลค่าเพิ่ม เป็นหลักเกณฑ์ข้อหนึ่งในการอนุมัติให้การส่งเสริม

ซึ่งกำหนดแนวทางการคำนวณคือ มูลค่าเพิ่ม (%) = (รายได้ - ต้นทุนวัตถุดิบ - ค่าบริการสาธารณูปโภค) x 100 / รายได้

2. เรื่องที่สอบถาม ข้อมูลไม่ชัดเจนว่า

- เป็นการว่าจ้างเพื่อผลิตชิ้นส่วนที่บริษัทจะต้องผลิตเองตามกรรมวิธีที่ได้รับส่งเสริม

- หรือเป็นการว่าจ้างเพื่อผลิตชิ้นส่วนที่บริษัทจะไม่ผลิตเอง

จึงขอตอบทั้ง 2 กรณีดังนี้

3. กรณีว่าจ้างชิ้นส่วนที่เดิมจะต้องผลิตขึ้นเองตามกรรมวิธีที่ได้รับส่งเสริม

- มูลค่าเพิ่มของโครงการจะลดลง เนื่องจากมีค่าบริการจากภายนอก (ค่าว่าจ้าง) เพิ่มขึ้น

- แนวทางการคำนวณคือ มูลค่าเพิ่ม (%) = (รายได้ - ต้นทุนวัตถุดิบ - ค่าบริการสาธารณูปโภค - ค่าว่าจ้าง) x 100 / รายได้

- หากบริษัทจะไม่ผลิตชิ้นส่วนเอง แล้วทำให้มูลค่าเพิ่มลดลงต่ำกว่าหลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการ -> จะไม่อนุญาตให้แก้ไขกรรมวิธีผลิตเพื่อลดขั้นตอนผลิต

- แต่หากเป็นการว่าจ้างชั่วคราว เช่น เครื่องจักรเสีย ฯลฯ อาจผ่อนผันให้ได้เป็นกรณีไป

4. กรณีว่าจ้างผลิตชิ้นส่วนที่เดิมไม่ต้องผลิตเอง

- มูลค่าเพิ่มของโครงการไม่เปลี่ยนแปลง (ไม่ลดลงกว่าเดิม)

- เป็นกรณีที่ต้องการใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากรวัตถุดิบหรือแม่พิมพ์ที่จะนำไปว่าจ้างผลิต ครับ

janis โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568, 15:03:33 (4 วัน ก่อน)
#8 Top

ทางบริษัทเพิ่มการว่าจ้างผู้อื่นผลิต ลงไปในกรรมวิธีการผลิตเดิมที่มีอยู่ค่ะ โดยเพิ่มว่า บางส่วนนำไปว่าจ้างผู้อื่นผลิตแบบนี้ค่ะ

สอบถามเพิ่มเติมค่ะ

- ค่าบริการสาธารณูปโภค ทางBOIมีกำหนดมั้ยคะว่าต้องมีค่าอะไรบ้างคะ

- การคำนวณ % ส่วนนี้เป็นรายเดือน หรือรายปีคะ

- ข้อมูลในส่วนนี้ที่ทาง BOI ต้องการมีผลอะไรกับตอนเปิดดำเนินโครงการหรือไม่คะ

ADMIN โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568, 17:12:02 (4 วัน ก่อน)
#9 Top

1. ค่าสาธารณูปโภค คือ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน/ค่าก๊าซที่เกี่ยวกับการผลิตโดยตรง 

2. การคำนวณรายเดือนหรือรายปี ปกติควรจะได้ตัวเลขเท่ากัน เนื่องจากเป็นสัดส่วนที่คงที่

3. เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติ

แต่จะไม่มีการตรวจสอบภายหลังจากได้รับอนุมัติแล้ว ครับ

janis โพสต์เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568, 13:03:35 (3 วัน ก่อน)
#10 Top

รบกวนสอบถามเพิ่มเติมค่ะ

1.การคิดมูลค่าเพิ่มคือมูลค่าเพิ่มของโครงการทั้งหมด ไม่ใช่แค่มูลค่าเพิ่มของขั้นตอนที่ต้องการแก้ไขใช่มั้ยคะ

2.รายได้ในที่นี้ หมายถึงรายได้จากการขายสินค้าสำเร็จรูปหรือรายได้ของบริษัททั้งหมดคะ

แก้ไขโดย janis เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568, 13:07:31
ADMIN โพสต์เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568, 13:52:41 (3 วัน ก่อน)
#11 Top

1. หากเป็นการแก้ไขกรรมวิธีผลิตลดขั้นตอนผลิตของผลิตภัณฑ์ใด
ปกติควรต้องคำนวณมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์นั้น ไม่ใช่คำนวณทั้งโครงการที่ได้รับส่งเสริม

2. รายได้ที่ใช้ในการคำนวณมูลค่าเพิ่ม
ปกติควรเป็นรายได้ของผลิตภัณฑ์ที่จะลดขั้นตอนการผลิต ไม่ใช่รายได้ของทั้งโครงการที่ได้รับส่งเสริม ครับ

janis โพสต์เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568, 15:14:04 (3 วัน ก่อน)
#12 Top

ตามเอกสารขอแก้ไขโครงการ เป็นตามสูตรข้อที่ 1 ทางเราต้องใช้สูตรตามอันไหนถึงจะถูกต้องคะ

1.แนวทางการคำนวณคือ มูลค่าเพิ่ม (%) = (รายได้ - ต้นทุนวัตถุดิบ - ค่าบริการสาธารณูปโภค) x 100 / รายได้

2. แนวทางการคำนวณคือ มูลค่าเพิ่ม (%) = (รายได้ - ต้นทุนวัตถุดิบ - ค่าบริการสาธารณูปโภค - ค่าว่าจ้าง) x 100 / รายได้

ADMIN โพสต์เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568, 17:25:15 (3 วัน ก่อน)
#13 Top

ถ้าเป็นการแก้ไขกรรมวิธีผลิต จากเดิมผลิตเอง เป็นว่าจ้างผลิต

ให้ใช้แนวทางตามข้อ 2 ครับ

janis โพสต์เมื่อวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568, 08:33:08 (3 วัน ก่อน)
#14 Top

ถ้าเป็นกรณีผลิตเองด้วย แล้วก็ว่าจ้างเพิ่มด้วย ต้องใช้ตามข้อไหนคะ เช่น ขั้นตอนที่ 5 นำชิ้นงานไปปิดรู ขัดผิวหยาบ ตัดขอบ เจาะรู ขัดผิวละเอียด เตรียมผิว ชุบทองแดง และบางส่วนของกระบวนการเจาะรูนำไปว่าจ้างผู้อื่นผลิต

ADMIN โพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568, 15:32:57 (18 ชั่วโมง ก่อน)
#15 Top

หากแก้ไขกรรมวิธีการผลิตจากเดิมเจาะรูเอง เป็นบางส่วนเจาะรูเอง และบางส่วนว่าจ้างเจาะรู โดยไม่ระบุสัดส่วน ให้ใช้แนวทางตามวิธีที่2 ครับ

<< ก่อนหน้า       1       ถัดไป >>

ถ้าหากคุณต้องการโพสต์ในกระทู้นี้ กรุณา ลงชื่อเข้าใช้ หรือ ลงทะเบียนใช้งานเว็บบอร์ด